Long gilbert Guitar Lesson อ.ลอง สอนกีตาร์ ชลบุรี: มีนาคม 2015

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

แบบฝึก มือขวา [Part 1] แบบ ซิวๆ เข้าใจง่ายๆ

แบบฝึก มือขวา [Part 1]

แบบฝึกนี้เป็นการฝึกทักษะการดีดของ มือขวา ด้วยการดีดสลับคือ มือกีตาร์ทั่วไปมักให้ความสนใจกับมือซ้าย ซึ่งในทางที่จริงแล้ว การที่เราดีดมือขวาได้อย่างคล่องแคล่ว จะทำให้การดีดมีน้ำหนัก ลองสังเกตง่ายๆคุณเล่น note ตัวเดียวด้วยการดีดธรรมดา กับการดีดแบบมีน้ำหนัก มีหนักมีเบา Sound ที่ได้มันจะคนละอย่าง นี่คือจุดแตกต่างว่าทำไมเราสำเนียงไม่ดีเลยทั้งๆที่ เราก็เล่น note ตำแหน่งเดียวกัน แต่คนที่ดีดแบบมีน้ำหนักทำไม เสียงมันพุ่งดีจัง อารมณ์ประมานนั้น ว่าแล้วก็ลองฝึกกันดูครับ

EX 1. ลองมาเช็คว่าคุณดีดได้คล่องจริงหรือ ? ง่ายๆ แบบฝึกนี้แค่เปลียนวิธีการดีด มันก็ทำให้คุณพบว่าความจริงคุณดีดไม่ได้คล่องเลย Note อยู่ใน A minor pentatonic นะครับ

ลองดู EX 1.1 คุณจะเห็นว่ามันดีดง่ายมากๆ(ดีดตามเครื่องหมายให้ถูกต้องนะครับ)

EX 1.2 แต่พอเปลี่ยน การดีดเท่านั้นละ คุณจะดีดช้าลง ครึ่งนึงเลยความเร็วที่มีและความชัดเจนมันหายไปเลย

จาก EX 1.1 และ 1.2 ข้างบน คุณพอจะเข้าใจหรือยังครับว่ามันเป้นเพราะอะไร นั่นคือ การดีด in side และ out side ครับ มือกีตาร์ทั่วไปเวลาฝึกมักจะดีดลงก่อนเสมอใช่ปะครับ มันทำให้เราเลยรู้ศึกขัดๆ เมื่อ ดีดขึ้นก่อน การฝึกแบบนี้จะทำให้คุณ ลบข้อด้อยของมือขวาได้ ครับ

คราวนี้พอเข้าใจยังครับ การฝึกคือ ให้ดีดสลับทุกครั้งและ ให้ลองดีด Note ตัวแรกของแต่ละ Lick ทั้ง ดีดขึ้นและ ดีดลง ย้ำๆๆๆๆๆ ดีด Note ตัวแรกของแต่ละ Lick ทั้ง ดีดขึ้นและ ดีดลง

จนกว่าคุณจะรู้ศึกว่าคุณพอใจ

ความเร็วเหรอ ก็แล้วแต่คุณอ่ะ มาตรฐานง่ายๆ คิดเอา เขบ็ต 2 ชั้นควรได้ 120 Up หกพยางค์ 100 Up แต่ที่สำคัญกว่าเรื่องอื่นคือดีดให้ถูกต้อง เน้นหนักที่ Note ตัวแรกของแต่ละ Lick และเสียงที่ออกมาต้องชัดเจน Enjoy !!

เปิดสอน guitar ตั้งแต่ พื้นฐาน จนถึงขั้นสูง ทั้ง Classic- Rock- Blues- Jazz- Metal- สำหรับผู้ที่รักการเล่น guitar และอยากพัฒนาการเล่นให้ดียิ่งขึ้น หรืออยากเล่น guitar เป็นการพักผ่อน หรือสนใจ ติวเพื่อ สอบเข้า มหาวิทยาลัย
ค่าใช้จ่าย : 1800 - 2000 บาท ต่อ 4 ครั้ง (อาทิตย์ละครั้ง ครั้งละ 1 ชม.) ขึ้นอยู่กับ Course ที่เรียน
กรณีที่ลา ลาได้ 2 ครั้ง ต่อเดือน

ติดต่อเรียน 089 6665363 อ. ลอง

Facebook : https://www.facebook.com/long.gilbert

YouTuBe : https://www.youtube.com/channel/UCznJpf_eGGDdY7hI_vOzG6w

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

CAGED system คือ ? Part 1

CAGED system เป็นระบบ เป็นที่ง่ายและพื้นฐานที่สุด ในการ จำรูปแบบ คอร์ดต่างๆ ทั้ง Major Minor Dominant และ Scale ต่างๆ มากมายอีกด้วย Mode ด้วยนะเออ

มีประโยชน์ มากๆ มันทำให้ เราสามารถ เชื่อมโยง คอร์ด Scale ต่างๆ จาก position เล็กๆ จนกระทั่ง Note ทั้ง fret board (คอกีตาร์ ) ได้เลย

CAGED ก็คือรูปแบบการจัด คอร์ดแบบ C, A, G, E และ D คอร์ด แบบ บาร์คอร์ด หรือ คอร์ด ทาบ เมื่อเราเลื่อน คอร์ดทาบไป ตาม เฟรต ต่างๆ ก็จะได้ คอร์ด ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ดังรูป

สังเกตุ Note Root สีแดง นั่น คือ ฟอร์มพื้นฐาน หรือ Shape เมื่อเราเลื่อน Root ไปเรื่อยๆ โดยจับ ฟอร์มเดิม หรือ Shape เดิม เสียงที่ได้ จะเปลี่ยนไป ดังนั้น เมื่อเราจับ คอร์ด หรือ ไล่ scale ต่างๆ โดย อ้างอิง shape นี้ ก้จะได้ คอรืด หรือ Scale ที่เปลี่ยนไป ^^

ตัดกัน ให้เห้น ชัดๆๆ เมือเอา Note ออกให้เหลือ แต่ Root

ดังนั้น เมื่อเรา จำ Shape ที่เป็น พื้นฐาน ทั้ง 5 แบบนี้ได้ มันก้ง่าย ที่เราจะ จำ Scale ต่างๆจาก Shape นี้ได้

แล้วผมจะมาเขียน Part 2 ให้นะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

Circle of fifths คือ ?

Circle of fifths คือ สำหรับผมคือ วงกลม ที่นำพาผมไปสู่ทุกอย่างของโลกดนตรี แล้วผมจะ ทยอย อธิบายให้ฟังนะครับ

แต่ จะให้ดูเป็นหลักการ ก็คือ วงจรการเคลื่อนที่ระยะขั้นคู่ 5

ขั้นคู่ 5 คือช่วงที่อยู่ระหว่างตัวโน้ต 2 ตัว ซึ่งมีชื่อห่างกันในระยะ 5 ตัวอักษร อ้างอิง จาก Scale ต่างๆ

ขั้นคู่ 5 มีหลายประเภท ทั้ง Perfect . Dim . Aug ซึ่งจะปรากฎใน หลายๆบันไดเสียง

แต่ใน circle of fifths จะบ่งบอกถึง คู่ 5 จาก major Scale เพื่อ นำไปสู่ major scale ทั้งหมด

โดย ดูจุด เริ่ม ที่ note C เท่ากับ C major เป็นบันไดเสียงเริ่มแรก ไม่ติด # ไม่ ติด b

ในที่นี้เราจะมอง เห็นบันไดเสียง ไมเนอร์ ( minor scale ) ด้วย ตัวพิมเล็ก ก็คือ A minor

เมื่อเคลื่อนที่ไป

ตาม Circle of fifths ก็จะเป็น note G เท่ากับ G major เป็น บันไดเสียงต่อ มา คือ 1# Note ที่ติด # ก็ให้มองก่อนหน้า note G คือ Note F ที่ติด# ก็จะได้ G major = 1 # Note ที่ติด # เท่ากับ Note F#

มองไปเรื่อยๆ จะได้ Scale major ดัง รูป (ทาง # นะ มันจะไปถึง 7# พอดี )
ถ้าทาง b แฟรต ก็มอง ย้อนกับ เป็น circle of fourths คือ มองย้อนกลับไป ทวนเข็ม นาฬิกา

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

Chord คือ ? การคิดและการสร้าง Chord และ Triad

Chord คอร์ด หมายถึง ตัวโน้ตตั้งแต่สามตัวขึ้นไป อย่างมีระบบ อาจจะมี 3 เสียง 4 เสียง ก็ได้

แต่ พื้นฐานที่สุดคือ 3 เสียง

คำว่าอย่างมีระบบคือ การเอา Note ใน โครงสร้างของ Scale มาเล่นพร้อมกัน ซึ่งจะ นำตัว ที่ 1 3 5 7
ในที่นี้ พูดถึงคอร์ดพื้นฐาน 3 เสียงและ 4 เสียง ยังจะมี การนำ ตัวที่ 9 11 13 มาด้วย แต่จะอธิบาย ใน เรื่องต่อไปละกัน

ซึ่ง คอร์ด 3 เสียง มีชื่อเรียก อีกชื่อนึงว่า Triad ตรัยแอด หมายถึง คอร์ด 3 เสียง (อาจจะ งง นิดนึง )

โดยจะอ้างอิงจากบันไดเสียง ตามที่ได้บอกไว้ข้างต้นว่า อย่างมีระบบ

ชื่อคอร์ดเรียกตามชื่อตัวโน้ต Root หรือตัวหลักของบันได้เสียง

ไม่ว่าจะเป็นคอร์ด เมเจอร์ ( Major Chord ) หรือ ไมเนอร์ ( Minor Chord ) หรือคอร์ดอื่น ๆ

วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ใช้ Note ลำดับที่ 1 3 5 ของบันไดเสียง เมเจอร์ ( Major ) มาสร้างเป็นคอร์ด Major ให้ได้ก่อน

ซึ่ง ในรุป C major scale = C D E F G A B C

เมื่อนำ Note 1 3 5 มาเล่นพร้อมๆกัน

คือ Note C E G = คอร์ด C Major

เมื่อได้ C major แล้วจากนั้น จึง เปลี่ยนโครงสร้างไป ตามโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละคอร์ด

รูปแบบ โครงสร้างของคอร์ดในขั้นพื้นฐาน มี 4 ชนิดคือ

- คอร์ดเมเจอร์ ( Major Chord ) 1 3 5

- คอร์ดไมเนอร์ ( Minor Chord ) 1 3b 5

- คอร์ดดิมินิช ( Diminished Chord ) 1 3b 5b

- คอร์ดอ๊อกเมนเต็ด ( Augmented Chord ) 1 3 5#

หน้าเว็บ